คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดโครงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ภายใต้หัวข้อ “Universal Design: อารยสถาปัตย์เพื่อสิทธิคนพิการ” คาดหวังว่าหน่วยงานภาครัฐจะตระหนักถึงสิทธิของคนพิการ โดยจัดบริการสาธารณะ และจัดสวัสดิการให้ความช่วยเหลือดูแลคนพิการอย่างทั่วถึงตามหลักสิทธิมนุษยชน และเป็นเวทีข้อเสนอแนะให้จังหวัดปัตตานี นำไปสู่ติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบายการพัฒนาแนวทางสิทธิของคนพิการทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อให้สิทธิคนพิการได้รับการยอมรับมากขึ้น

เมื่อวันนี้ ( 14 กุมภาพันธ์ 2567 ) ณ ห้องประชุมปริชญากร ชั้น 4 สำนักงานวิทยาเขตปัตตานี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จัดโครงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ภายใต้หัวข้อ “ Universal Design: อารยสถาปัตย์เพื่อสิทธิคนพิการ ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยมีนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานในพิธีเปิด ผศ.ดร.ดิเรก หมานมานะ คณะกรรมการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กล่าวรายงาน กล่าวต้อนรับโดย ผศ.ดร. อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี และ ผศ.ดร.ชาคร ประพรหม รองคณบดีฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ทั้งนี้มี ผศ. ดร.สุชาติ เศรษฐมาลินี กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายสุเรนทร์ ปะดุกา ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพื้นที่ภาคใต้ และผู้ทรงคุณวุฒิ ตลอดจนนักศึกษา ตัวแทนหน่วยงานราชการ ภาคประชาสังคม และประชาชนทั่วไป จำนวน 160 คน ร่วมในพิธีเปิดและเวทีบรรยายพิเศษ




นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงบทบาทของจังหวัดปัตตานีกับการส่งเสริมสิทธิคนพิการว่า จังหวัดปัตตานีได้ขับเคลื่อนปฏิบัติการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ให้เกิดการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โดยอยู่บนฐานของสิทธิอย่างเป็นรูปธรรม และได้มาตรฐานในระดับสากล จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีคนพิการ จำนวน51,920 คน เป็นผู้หญิง 23,072 คน และผู้ชาย 28,848 คน หรือ 2.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในจังหวัด เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวนไม่น้อยเป็นชาติพันธุ์มลายูและมุสลิมจึงมีแนวโน้มว่าคนพิการส่วนใหญ่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นชาวไทย – มลายูมุสลิมที่พูดภาษามาลายู ในขณะที่คนพิการที่มีจำนวนน้อยกว่าและไม่ทราบจำนวนจะเป็นคนกลุ่มอื่น ๆ ในพื้นที่ซึ่งรวมทั้งชาวพุทธจีน – ไทย การอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งของผู้พิการนับว่าเป็นความท้าทายของจังหวัดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น นอกจากปัญหาการว่างงานในอัตราสูง การเข้าถึงการศึกษาที่ถูกจำกัด สุขภาพที่แย่ลง โอกาสทางเศรษฐกิจที่น้อยลง อัตราความยากจนที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขาดโอกาสในการเข้าไปมีส่วนร่วมทางสังคมและการเมืองโดยทั่วไปแล้ว การรับรู้เกี่ยวกับสิทธิคนพิการตามกฎหมายไทยที่จำกัดและไม่เพียงพอ หรือการมีความรู้ที่ยังไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการบริการเพื่อคนพิการ เช่น ความไม่ถูกต้องในการแปลข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิคนพิการ การแปลระหว่างภาษาไทยเป็นภาษามาลายูท้องถิ่นเป็นภาษามืออาจเป็นอุปสรรคต่อผู้พิการ ซึ่งในความเป็นจริงควรเป็นบริการและผลประโยชน์ที่เขามีสิทธิที่พึงได้รับ นอกจากนี้ การตีตราความพิการยังนำไปสู่การที่คนพิการจำนวนมาก รวมถึงครอบครัวของพวกเขาไม่สามารถเปิดเผยผู้พิการที่อยู่ในบ้าน ทำให้พวกเขาไม่เข้าถึงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการด้านสุขภาพหรือสวัสดิการอื่น ๆ ดังนั้นการจัดเวทีที่เกี่ยวข้องกับประเด็นคนพิการ ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ น่าจะมีข้อเสนอแนะให้กับทางจังหวัด เพื่อนำไปสู่ติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบาย การพัฒนาแนวทางสิทธิของคนพิการทั้งในระดับประเทศและระดับสากล เพื่อให้สิทธิคนพิการได้รับการยอมรับมากขึ้น

ผศ.ดร.ดิเรก หมานมานะ คณะกรรมการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ระหว่างคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล็งเห็นว่าในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีปัญหาเรื่องคนพิการ ซี่งถือเป็นกลุ่มเปราะบาง ที่อาจถูกเลือกปฏิบัติหรือเข้าไม่ถึงสิทธิสวัสดิการต่าง ๆ เท่าที่ควร ประกอบกับประเทศไทยเข้าเป็นภาคีเครือข่ายอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ ส่งผลให้ประเทศไทยมีข้อผูกพันที่จะต้องส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิคนพิการอย่างทั่วถึง รวมทั้งขจัดการเลือกปฏิบัติต่อคนพิการในทุกรูปแบบ รวมถึงพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 กำหนดให้คนพิการมีสิทธิเข้าถึง และใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ ดังนั้น คณะกรรมการดำเนินงานฯ จึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ภายใต้ หัวข้อ “Universal Design: อารยสถาปัตย์เพื่อสิทธิคนพิการ เพื่อส่งเสริมสิทธิคนพิการและการเข้าถึงบริการสาธารณะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการ 2567 ตามบันทึกข้อตกลงฯ ให้มีผลเป็นรูปธรรม คาดหวังว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในหลักการและความสำคัญของคนพิการตามหลักสิทธิมนุษยชนสากลที่จะได้รับการสนับสนุน ส่งเสริมและคุ้มครองเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐควรจะตระหนักถึงสิทธิของคนพิการ โดยจัดบริการสาธารณะ และจัดสวัสดิการให้ความช่วยเหลือดูแลคนพิการอย่างทั่วถึง ตามหลักสิทธิมนุษยชน

ผศ.ดร. อัตชัย เอื้ออนันตสันต์ รองอธิการบดีวิทยาเขตปัตตานี กล่าวถึงบทบาทมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี โดยคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นับว่าเป็นการขับเคลื่อนภารกิจในด้านวิชาการ และการประสานความร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อประโยชน์สูงสุดจะเกิดขึ้นกับคนพิการที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ปัญหาคนพิการไม่ใช่เรื่องของสังคมนอกรั้วมหาวิทยาลัยเท่านั้น เป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการมีรากฐานปัญหาคือด้านการศึกษา มีคนพิการเรียนจบระดับ อุดมศึกษา 1.04% มัธยมศึกษา 8.28% ประถมศึกษา 61.01% จากคนพิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการทั้งหมด โดยเฉพาะระดับปริญญาตรี 0.16% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยมาก ดังนั้น จากหัวข้อของโครงการ ในครั้งนี้คาดหวังว่า มหาวิทยาลัยจะได้รับข้อเสนอแนะ เพื่อให้มหาวิทยาลัยได้เข้าใจคนพิการได้มากขึ้น และสร้างโอกาสให้คนพิการสามารถเข้าถึงการศึกษาได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไป

ผศ.ดร.ชาคร ประพรหม รองคณบดีฝ่ายวิจัยและยุทธศาสตร์ความเป็นเลิศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ภายใต้หัวข้อ “Universal Design: อารยสถาปัตย์เพื่อสิทธิคนพิการ ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กับสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งได้พิธีลงนามเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ว่าด้วยกรอบความร่วมมือไว้ 7 ข้อ คือ (1) ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของสถาบันการศึกษา (2) ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรหรือรายวิชาด้านสิทธิมนุษยชน และจัดให้มีการเรียนรู้ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบในสถาบันอุดมศึกษา (3) จัดกิจกรรมต่าง ๆ ด้านการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อสร้างและพัฒนากระบวนการเรียนรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่สอดคล้องกับบริบทวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในพื้นที่ และสามารถนําไปประยุกต์ใช้ในการปกป้องสิทธิของตนเองและส่วนรวมได้อย่างถูกต้อง (4) สร้างความร่วมมือทางวิชาการด้านสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาดำเนินการวิจัย รวมทั้งแลกเปลี่ยนและใช้ประโยชน์จากผลงานทางวิชาการระหว่างกัน (5) พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมให้อาจารย์ นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ได้รับความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนผ่านประสบการณ์จริงในพื้นที่ และ (7) สร้างพื้นที่ความร่วมมือและพัฒนาหรือขยายเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชน ทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการส่งเสริม ปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน


